นโยบายการกำกับดูแลกิจการ
ก่อนที่บริษัทจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2546 บริษัทได้ดำเนินการในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามอย่างยูนิลิเวอร์อย่างครบถ้วน หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทได้นำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 15 ข้อ (Principles of Good Corporate Governance) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
1. นโยบายเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการ
- ปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน
- คณะกรรมการต้องบริหารงานด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง รับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสามารถ
- สนับสนุนให้ผู้บริหารและพนักงานปฏิบัติงานอย่างมีจริยธรรม
- บริษัทได้จัดโครงสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพ มีการกำหนดอำนาจการตัดสินใจในระดับต่างๆ ทำให้การวางแผนการ สั่งการ และการควบคุมการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
- จัดให้มีการประเมินปัจจัยเสี่ยง ทั้งมาจากภายนอก และภายใน โดยมีการจัดประชุมอย่างสม่ำเสมอระหว่างฝ่ายบริหารเพื่อพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อผลประกอบการของธุรกิจ และประมาณการที่จัดทำไว้ล่วงหน้า
2. สิทธิและความเท่าเทียมกันของผู้ถือหุ้น
การสร้างความเท่าเทียมกันให้เกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นทุกรายทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้ถือหุ้นรายย่อย นักลงทุนสถาบัน หรือผู้ถือหุ้นต่างชาติ บริษัทฯให้ความสำคัญต่อผู้ถือหุ้นทุกราย บริษัทฯ มีแนวทางในการกำกับดูแล เพื่อปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกันและเป็นธรรมดังนี้
- บริษัทฯ รักษาสิทธิของผู้ถือหุ้นและปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน ผู้ถือหุ้นทุกรายย่อมมีสิทธิรับข้อมูลหรือเอกสารเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษสำหรับผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติตามเกณฑ์หรือระเบียบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- ผู้ถือหุ้นมีสิทธิมอบฉันทะให้ผู้อื่นมาประชุมและลงมติแทนผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นมีสิทธิได้รับเอกสารหรือคำแนะนำในการมอบฉันทะ ผู้รับมอบฉันทะที่ถูกต้องตามกฎหมายยื่นหนังสือมอบฉันทะให้กรรมการในที่ประชุมแล้วย่อมมีสิทธิเข้าร่วมประชุมและลงมติเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นทุกประการ ผู้ถือหุ้นอาจมอบฉันทะให้กรรมการอิสระของบริษัทฯ มาประชุมลงมติแทนก็ได้ ผู้ถือหุ้นมีสิทธิได้รับประวัติหรือข้อมูลการทำงานของกรรมการอิสระแต่ละท่านที่ครบถ้วนเหมาะสมในการพิจารณา
- ห้ามมิให้บุคลากรของบริษัทซึ่งอยู่ในหน่วยงานที่รับทราบข้อมูลภายใน ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ในช่วง 1 เดือนก่อนการเปิดเผยงบการเงินต่อสาธารณะ
3. สิทธิของผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ
บริษัทให้ความสำคัญของสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ ดังนี้
- พนักงาน : บริษัทปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
- คู่ค้า : บริษัทได้กำหนดนโยบายและการปฏิบัติงานต่างๆ กับคู่ค้าอย่างเป็นธรรม
- เจ้าหนี้: บริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขการกู้ยืมเงิน
- ลูกค้า: บริษัทจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าในราคาที่เหมาะสม
- คู่แข่งขัน: บริษัทไม่ดำเนินธุรกิจที่ทำร้ายคู่แข่งขัน
- สังคม: บริษัทดำเนินธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
4. การประชุมผู้ถือหุ้น
- บริษัทกำหนดให้มีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมอาคารศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมัน เลขที่ 592 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ โดยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และได้แจ้งผู้ถือหุ้นทราบผ่านระบบ SETLink ของตลาดหลักทรัพย์ ส่งให้ผู้ถือหุ้นตามรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียน
- เพื่อให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีเกี่ยวกับการดูแลสิทธิของผู้ถือหุ้น และแสดงถึงการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ยูนิวานิชได้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเสนอระเบียบวาระการประชุมและเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อเข้ารับการเลือกตั้งเป็นกรรมการเป็นการล่วงหน้า สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยแจ้งผ่านระบบสารสนเทศของตลท.และเผยแพร่บนเว็บไซต์ของยูนิวานิช ปรากฏว่าไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดเสนอวาระการประชุมหรือเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการเลือกตั้งเป็นกรรมการแต่อย่างใด
- อำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือหุ้นทุกรายที่ต้องการดาวน์โหลดหนังสือเชิญประชุม รายงานประจำปี หนังสือมอบฉันทะ แบบฟอร์มลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ในเว็บไซต์ของบริษัทเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565
- เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นซักถามได้ในแต่ละวาระ ตลอดจนสามารถพิมพ์คำถามไว้ในกล่องข้อความของระบบการประชุมแบบ E-AGM และเปิดให้ลงคะแนนเสียงในแต่ละวาระโดยอธิบายวิธีการลงคะแนนก่อนเปิดให้ผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะลงคะแนนในวาระเลือกตั้งกรรมการ เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นลงคะแนนแยกเป็นรายบุคคล
- จัดทำรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นให้แล้วเสร็จภายใน 14 วันหลังการประชุมและเผยแพร่รายงานการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ไว้ในเว็บไซต์ของบริษัท www.univanich.com
5. ภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์
คณะกรรมการบริษัทมีส่วนร่วมในการกำหนดและเห็นชอบนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมถึงแผนงานทางธุรกิจและงบประมาณ คณะกรรมการบริษัทจะคอยติดตามดูแลการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามแผนงานทางธุรกิจและงบประมาณบริษัทอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมอบหมายให้ฝ่ายจัดการดำเนินการตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มมูลค่ากิจการและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างมีมาตรฐาน โปร่งใส ตามกำหนดเวลา
คณะกรรมการได้มีการมอบหมายอำนาจหน้าที่บางเรื่องให้แก่หัวหน้าคณะผู้บริหาร โดยที่อำนาจการอนุมัติสูงสุดยังคงเป็นของกรรมการทั้งนี้ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับของบริษัท
6. ความขัดแย้งทางผลประโยชน์
บริษัทจัดให้มีมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ โดยบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง หรือข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด โดยที่รายการที่กรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น หรือบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งมีส่วนได้เสีย บุคคลดังกล่าวจะไม่มีสิทธิออกเสียงอนุมัติการทำรายการนั้นๆ ทั้งนี้รายการดังกล่าวเป็นไปเพื่อการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท โดยมีนโยบายการกำหนดราคาและเงื่อนไขต่างๆ ในราคาตลาด ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับราคาที่เกิดขึ้นกับบุคคลที่สาม
นอกจากนี้ บริษัทจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองผู้ลงทุนที่สามารถตรวจสอบได้ภายหลังกล่าวคือ บริษัทจะเปิดเผยรายการระหว่างกันไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินของบริษัทที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี และบริษัทจะจัดให้มีการรับรองโดยให้กรรมการตรวจสอบให้ความเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นและสมเหตุสมผลของรายการระหว่างกันในงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี
บริษัทได้จัดการให้มีการดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน กล่าวคือบริษัทห้ามมิให้กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการและพนักงานของบริษัทใช้ข้อมูลภายในของบริษัทที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์ของบริษัทไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนซึ่งรวมถึงเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ หากบริษัทพบว่าผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการและพนักงานของบริษัทกระทำผิดข้อห้ามตามประกาศฉบับนี้ บริษัทจะดำเนินการตามกฎหมายและลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาด
7. จริยธรรมธุรกิจ
บริษัทแจ้งให้กรรมการบริษัทปฏิบัติตามข้อพึงปฏิบัติที่ดีสำหรับกรรมการบริษัทจดทะเบียน (Code of Best Practices) ตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
8. การถ่วงดุลของกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
ในปี 2565 บริษัทมีกรรมการที่มิใช่ผู้บริหารจำนวน 8 ท่านจากจำนวนกรรมการทั้งสิ้น 10 ท่าน และในกรรมการทั้ง 8 ท่าน มีกรรมการอิสระจำนวน 3 ท่านเป็นกรรมการตรวจสอบ
9. การรวมหรือแยกตำแหน่ง
ประธานกรรมการเป็นอิสระและไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับฝ่ายบริหาร โดยประธานกรรมการคือนายอภิรักษ์ วานิช เป็นตัวแทนของกลุ่มวานิช ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท และประธานกรรมการมิใช่เป็นบุคคลเดียวกับหัวหน้าคณะผู้บริหารทั้งนี้เพื่อเป็นการแบ่งอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการบริหารงานประจำให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. ค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร
บริษัทจัดให้มีค่าตอบแทนที่จูงใจให้แก่กรรมการและผู้บริหารในระดับที่เหมาะสม ไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนที่เกินควร นอกจากนี้ค่าตอบแทนจ่ายในระดับที่เปรียบเทียบได้กับอุตสาหกรรม และเหมาะสมกับหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการและผู้บริหารแต่ละท่าน บริษัทกำหนดให้มีการเปิดเผยค่าตอบแทนที่จ่ายให้แก่กรรมการและผู้บริหารตามแบบที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด
11. การประชุมคณะกรรมการ
บริษัทจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง โดยมีการนำส่งหนังสือนัดประชุมพร้อมข้อมูลประกอบการประชุมวาระต่างๆ ให้คณะกรรมการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนวันประชุมตามที่กำหนดในข้อบังคับของบริษัท
12. คณะอนุกรรมการ
ในปี 2565 คณะอนุกรรมการในคณะกรรมการบริษัทมี 3 คณะ ดังต่อไปนี้
กรรมการตรวจสอบ
บริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม2546 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งคนละ 3 ปี ในปี 2565 คณะกรรมการตรวจสอบมีการจัดประชุมขึ้นทั้งหมด 4 ครั้งเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับระบบตรวจสอบของบริษัท
คณะอนุกรรมการกำกับกลยุทธ์
บริษัทจัดให้มีคณะอนุกรรมการกำกับกลยุทธ์ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2547 เพื่อทำหน้าที่พิจารณาทบทวนกลยุทธ์ของบริษัทเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต แผนธุรกิจในระยะยาวของบริษัท และกลยุทธ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับโครงการระยะยาว รวมถึงการพิจารณาวางแผนการสืบทอดตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง
คณะอนุกรรมการการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน
บริษัทได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 เพื่อพิจารณาทบทวนและให้คำปรึกษาต่อคณะกรรมการบริษัทในการแต่งตั้งและกำหนดกรอบค่าตอบแทนให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท รวมทั้งมั่นใจว่ามีแผนการสืบทอดตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง
13. ระบบการควบคุมและการตรวจสอบภายใน
บริษัทได้จัดตั้งหน่วยงานตรวจสอบภายในเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2546 ขึ้นตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบ โดยหน่วยงานตรวจสอบภายในรวมถึงบริษัทผู้ตรวจสอบภายในที่บริษัทจ้างมาเพื่อช่วยในการจัดตั้งและติดตามดูแลการควบคุมภายในของบริษัท
14. รายงานของคณะกรรมการ
คณะกรรมการจัดให้มีคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งจะเป็นผู้ให้ความเห็นในรายการระหว่างกัน ที่เปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงินของบริษัทที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี โดยจะจัดให้มีการรับรองโดยให้กรรมการตรวจสอบให้ความเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นและความสมเหตุสมผลของรายการระหว่างกัน และหากเกิดกรณีที่กรรมการตรวจสอบไม่มีความชำนาญในการพิจารณารายการระหว่างกันที่อาจเกิดขึ้น จะให้บริษัทจัดหาผู้เชี่ยวชาญที่เป็นอิสระจากบริษัท เป็นผู้ให้ความเห็นเกี่ยวกับรายการระหว่างกันดังกล่าว เพื่อประกอบการตัดสินใจของคณะกรรมการหรือผู้ถือหุ้น
15. ความสัมพันธ์กับผู้ลงทุน
เพื่อปฏิบัติตามเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลต่างๆ ในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนอย่างถูกต้องครบถ้วน ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายที่จะเปิดเผยสารสนเทศที่สำคัญของบริษัทอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา โดยบริษัทมอบหมายให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการบริหารฝ่ายการเงินเป็นผู้รับผิดชอบในการสื่อสารกับนักลงทุน นักวิเคราะห์ ผู้ลงทุนและผู้ที่สนใจทั่วไป